...

ประกาศ/คำสั่ง/ข้อบังคับ

สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือในการจัดเตรียมวัคซีนและชีววัตถุอ้างอิงมาตรฐานของประเทศ ฯ

วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์วิศิษฏ์ สิตปรีชา ผู้อำนวยการ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ร่วมลงนามความร่วมมือในการจัดเตรียมวัคซีนและชีววัตถุอ้างอิงมาตรฐานของประเทศ ระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย บริษัท โกลบอล ไบโอเทค โปรดักส์ จำกัด และบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด โดยมีนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือฯ พร้อมด้วย เภสัชกรบุญรักษ์ ถาวรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โกลบอล ไบโอเทค โปรดักส์ จำกัด และนายวิฑูรย์ วงศ์หาญกุล ประธานกรรมการบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย จำกัด ร่วมลงนาม โดยมีนายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นางสายวรุฬ จดูรกิตตินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันชีววัตถุ เภสัชกรหญิง วชิราภรณ์ เหมมาลา หัวหน้าฝ่ายประกันคุณภาพ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากทั้ง 4 ฝ่าย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม 110 ชั้น 1 อาคาร 100 ปี การสาธารณสุขไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดนนทบุรี

   โดยสถานเสาวภา สภากาชาดไทย ได้ร่วมโครงการจัดเตรียมวัคซีนอ้างอิงมาตรฐานของประเทศ ร่วมกับสถาบันชีววัตถุกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มาตลอดในช่วงระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา สถาบัน ชีววัตถุเป็นหน่วยงานกลางในการกําหนดมาตรฐานและพัฒนาศักยภาพทางห้องปฏิบัติการของประเทศและภูมิภาคเอเชีย โดยผลิตภัณฑ์ที่สถานเสาวภาผลิตและร่วมโครงการฯ มีทั้งหมด 4 ผลิตภัณฑ์ คือ วัคซีนบีซีจี (Freeze dried BCG Vaccine) และวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (TRCS SPEEDA) เซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (Equine Rabies Immunoglobulin; ERIG) และเซรุ่มแก้พิษงู (Snake antivenin) โดยเซรุ่มแก้พิษงูที่เข้าร่วมโครงการมี 2 ชนิด คือ เซรุ่มแก้พิษงูเห่าและเซรุ่มแก้พิษงูกะปะ ซึ่งการได้ร่วมโครงการจัดเตรียมวัคซีนอ้างอิงมาตรฐานของประเทศนี้เป็นการพัฒนาศักยภาพ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดเตรียมชีววัตถุมาตรฐานร่วมกันระหว่างผู้ผลิตและหน่วยงานควบคุมกํากับคุณภาพของรัฐ เพื่อให้การควบคุมคุณภาพของผลการตรวจวิเคราะห์เป็นที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐานเดียวกัน ลดความต่างระหว่างห้องปฏิบัติการ ที่สําคัญประชาชนจะได้รับวัคซีนและเซรุ่มที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก